ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์สุพร
เกิดสว่าง นักวิจัยจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ซึ่งท่านเคยแถลงผลการวิจัยไว้ว่า
จากการศึกษาพบว่าการที่ผู้ชาย มีความรักเพศเดียวกันมีสาเหตุหลายอย่าง
ทั้งปัจจัยทางชีววิทยา และจิตวิทยา เริ่มตั้งแต่สาเหตุทางพันธุกรรม การพัฒนา ของสมองเด็กในครรภ์ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเพศ
ตลอดจนการอบรมเลี้ยงดู และประสบการณ์การเรียนรู้หลังจาก ที่เกิดมาแล้ว ซึ่งพฤติกรรมเหล่า
นี้ไม่ได้เกิดจากการเลียนแบบ และไม่ติดต่อกัน (ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดก็ยังไม่ใช่สาเหตุที่แน่ นอน เป็นเพียงแค่ความรู้สึกของ
คนตอบและการคาดเดาเท่านั้น ปัจจุบันเลิกสงสัยกันแล้ว และยอมรับว่าการเป็นเกย์เป็นเรื่องของธรรมชาติเช่นเดียวกับคนที่เกิดมาเป็น
ชายหรือหญิง)
ทั้งเกย์และกะเทยจะเริ่มรู้สึกว่าตนเองต่างจาก
เพื่อนเพศเดียวกันตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบ
หรือเมื่อเริ่มจำความได้ โดยจะจดจำว่าพ่อแม่ตักเตือนอยู่เสมอว่าอย่าทำตัวเป็นผู้หญิง
ซึ่งอาจจะสร้างความรู้สึกกดดันภายในจิตใจ
ในด้านพฤติกรรมจะมีความรู้สึกอ่อนไหว ร้องไห้ง่าย กิริยามารยาทคล้ายเด็กหญิง ชอบแต่งตัว
ชอบเล่นกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิง ไม่ชอบเล่นรุนแรง เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นจะมีความรู้สึกทางเพศกับเพศเดียวกัน
แตกต่างจากเพื่อนผู้ชายทั่วไป เนื่องจากเด็กรับรู้ว่าสังคมทั่วไปมีความรู้สึกรังเกียจเกย์และกะเทย
เด็กจึงสับสนไม่แน่ใจในการวางตัวในสังคม เกิดความวิตกกังวล ความเครียด พยายามปิดบังความรู้สึกของตนเอง
บางคนพยายามป้องกันตนเอง โดยพยายามทำตัวเป็นชายชาตรี เช่น
พยายามมีคนรักเป็นผู้หญิงหลายๆคน เพาะกายให้ดูเป็น "แมน" แสดงตนก้าวร้าว
ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แต่เด็กบางคนก็พยายามหาสิ่งทดแทนความด้อย เช่น
พยายามขยันตั้งใจเรียน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เพื่อน ฯลฯ ซึ่งเป็นการทดแทนที่ดี ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองและครูไม่เข้า
ใจเด็กจะยิ่งมีความทุกข์ทรมานใจ มากขึ้น
ที่มา : http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cartoonthai&date=16-07-2013&group=178&gblog=355
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น